วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555

150 Practice ECGs : Interpretation and Review 3rd Edition PDF

 
เป็นหนังสือเกี่ยวกับ ECG อีกเล่มที่น่าอ่าน ของปี 2006
มีรูปประกอบเยอะดี และมีแบบฝึกหัดให้อ่านถึง 150 แบบ ตามชื่อหนังสือ
ก็ลองโหลดไปดูเล่นได้ครับ แค่ 10 MB เอง PDF จ้า 

วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Netter's Clinical Anatomy 2nd Edition 2010 PDF

 
Text Anatomy ชื่อดัง version ปี 2010 ไม่นานมาก
เอาไว้สำหรับทบทวน Anatomy ได้ดีเลย
มีคำบรรยาย และ ตารางสรุปต่างๆด้วย
ไม่เหมือนอันที่ผมเคนเรียนตอนปี 2 เลย รู้สึกอันนั้นจะมีแต่รูปเยอะ
เป็น PDF ขนาด 110 MB จ้า เชิญโหลด 

Ischemic Heart Disease Thai Guideline 2008 PDF

 
แนวทางการดูแลรักษาภาวะหัวใจขาดเลือด ของ สปสช. ปี 2008
PDF ขนาด 1.7 MB 

Atherosclerosis Thai Guideline 2008 PDF

 
แนวทางการดูแลป้องกันโรคหลอดเลือดแดง
Atherosclerosis ของ สปสช ปี 2008 หรือ พ.ศ.2551
PDF ขนาดแค่ 800 KB เอง
ในตอนท้ายมีการดูแลโรคเบาหวาน ความดัน ไขมัน แบบสั้นๆด้วย 

Hypertension Thai Guideline 2008 PDF

 
แนวทางรักษาโรคความดันโลหิตสูง ประเทศไทย
โดย สปสช. ปี 2008 หรือ พ.ศ.2551
เป็นอีกอันที่ควรอ่าน PDF แค่ 1.69 MB 

DM Thai Guideline 2011 PDF

 
แนวทางรักษาผู้ป่วยเบาหวานประเทศไทย
ของ สปสช. ปี 2554 ปีที่แล้วนี่เอง
น่าสนใจ เพราะเป็นโรคพื้นฐานที่ควรรู้
PDF แค่ 1.33 MB เอง 

Oxford Handbook of Clinical and Laboratory Investigation 2nd Ed PDF


อันนี้ถึงจะเก่าหน่อย พิมพ์ปี 2002
แต่เป็นหนังสือเกี่ยวกับการส่ง Lab ต่างๆ ที่อ่านง่ายดีครับ
partแรกจะพูดถึงการส่งlabตามอาการต่างๆรวมทั้งบอกสาเหตุ
partหลังจะสรุปการส่งlabของหน่วยต่างๆ ลองไปอ่านเล่นดูได้จ้า
PDF แค่ 9.8 MB เอง 

วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

The ECG Workbook

 
PDF ขนาด 31 MB
เป็นแบบฝึกหัดอ่าน ECG แบบไม่ยาก
มีรูปประกอบสวยงาม นำไปอ้างอิงหรือสอนน้องต่อๆไปได้ครับ 

ACLS (Advanced Cardiac Life Support) Review: Pearls of Wisdom, Third Edition


เป็น PDF ขนาดแค่ 6 MB
พิมพ์ปี 2008 ยังใช้ AHA guideline 2006
แม้จะไม่ update แต่หลายๆอย่างก็น่าจะใช้ได้นะ 

Goldman's Cecil Medicine, 24th Edition


รวมได้ PDF file 214MB
เป็น text book ของ medicine อีกอันที่พูดถึงบ่อย
อ่านง่ายกว่า Harrison นะ 
แต่อย่างไรก็ตาม medicine ก็ชอบอ้างอิง Harrison อยู่ดี
โหลดไปทั้ง 2 ไฟล์นะครับ เป็น RAR file
แล่วค่อยไป extract โดยใช้โปรแกรมแตกไฟล์อีกต่อนึง

EDIT : ตอนนี้มีอัพเดตไฟล์เต็มๆไฟล์เดียว แก้ไขให้แล้วครับ
ตามไปโหลดอันนี้ดีกว่าครับ ที่ =>  

TOP5 คำที่มักเขียนผิดในทางMedicine

เพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลายๆท่าน บางคนอาจไม่ทราบว่าคำเหล่านี้เขียนอย่างไรกันแน่
เชื่อว่าหลายคนอาจยังเขียนผิดๆอยู่ วันนี้จึงขอนำเสนอ top 5 คำที่มักเขียนผิด
ซึ่งผมมักจะพบเห็นอยู่บ่อยๆ เวลา round ward มีอะไรบ้างไปดูกันเลย


อันดับ 5
PANCREAS อันนี้อาจพบไม่บ่อยมาก แต่ก็ยังมีคนเขียนเป็น PANCREASE อยู่เหมือนกัน
สรุปว่า ไม่มี E ต่อท้ายนะครับ

อันดับ 4
VOMITING หลายๆคนคงเคยเขียนเป็น VOMITTING แน่ๆเลย
สรุป มี T แค่ตัวเดียวนะครับ

แต่ต่างกับ COUNSELING สามารถเขียนว่า COUNSELLING ได้ครับ
จะมี L ตัวเดียว หรือ 2 ตัวก็ได้

อันดับ 3
BERODUAL นะครับ ไม่ใช่ BERADUAL 
อันนี้พบบ่อยมาก เพราะเป็นยาพ่นที่ใช้กันเยอะ เช่นในผู้ป่วยCOPD ยังมีคนเขียนผิดเยอะมาก
ให้จำชื่อผมก็ได้ BERO ตัว"โอ" นะครับ ไม่ใช่ BERA ตัว A

อันดับ 2 แต่น แตน แต๊น ได้แก่
PROPRANOLOL เป็นยาที่ทาง GI ใช้บ่อย เป็นยาที่ช่วยลด portal hypertension นั่นเอง
ทุกวันนี้ยังเห็นน้องๆเขียน PROPANOLOL กันเยอะมาก ของแท้ต้องมี R 2ที่นะครับ
ทั้ง PRO และ PRA เลยนะครับ 

อันดับ 1 และน่าจะตลอดกาล ลองไปดูได้เลยในใบorder ต้องมีแหงๆ
0.9 % NaCl นั่นเอง ไม่ใช่ 0.9 % NSS
เป็น order น้ำเกลือ ที่สั่งกันทุกๆวัน แต่ก็มักสั่งผิดกันประจำ
การที่บอกว่า 0.9 % นั้นจะต้องตามด้วยสารอะไรที่เป็น % นั้น
นั่นคือ NaCl (Sodium Chloride) แต่หากจะเขียน NSS ก็ไม่ต้องมี %
เพราะ NSS = Normal Saline Solution นั่นเท่ากับ NaCl ที่มี 0.9 %อยู่แล้ว
หากบอกว่า NSS/2 จึงจะเท่ากับ 0.45 % NaCl นั่นเองครับ

สรุปว่า 0.9 % NaCl = NSS
           0.45 % NaCl = NSS/2
และไม่มี 0.9 % NSS นะครับ
แต่ที่มี 5 %D/NSS เพราะ 5 % เป็น ของ Dextrose นั่นเอง
ไม่อย่างนั้นต้องเขียน 5 %D/0.9 % NaCl คงจะยาวไปหน่อย 

เอ้า ใครรู้ตัวว่าเขียนผิด ยกมือขึ้น

ปล. จริงๆยังมีอีกหลายคำ ที่ตกสำรวจไป ส่วนใหญ่จะเป็นชื่อยา
เช่น  WARFARIN ไม่ใช่ WARFARRIN
        LOSARTAN ไม่ใช่ LORSARTAN
        CARVEDILOL ไม่ใช่ CARVIDELOL 
        SPIRONOLACTONE ไม่ใช่ SPINOROLACTONE
        ยานี้ใช้บ่อยแต่ที่ไม่ติดอันดับเพราะส่วนใหญ่คนชอบเขียนชื่อการค้า ALDACTONE ไปเลย
หรือ DUROGESIC อันนี้เขียนได้ 2 แบบ DURAGESIC ก็ได้

ถ้าใครมีคำไหนน่าสนใจก็มาโพสต์ไว้ได้ครับ จะได้เขียนให้ถูกๆกันนะครับ 

วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555

IMPACT FACTOR 2012

Impact factor สำหรับmedicineทุกคนรู้ว่าเป็นสิ่งสำคัญ
เวลาอ่าน Journal อะไรที่ Impact factor สูงๆ ก็ย่อมน่าเชื่อถือกว่า
เราลองมาดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง น้องๆจะได้ไปอ้างอิงได้
โดยข้อมูลนี้อัพเดตล่าสุด ตค. 2555 นี้นะครับ
 ที่มา http://www.gastrohep.org/journals/


 เริ่มที่ General Med ก่อน

1.General Medical Journals

Latest issueJournal click title to jump to journal homepageImpact
factor
Most read
articles
13 September 2012The New England Journal of Medicine47.1Yes
10 May 2012Nature34.5Yes
1 September 2012The Lancet30.8
11 May 2012Science29.7Yes
10 October 2012The Journal of the American Medical Association28.9Yes
May 2012Nature Medicine27.1
18 September 2012Annals of Internal Medicine16.2
6 October 2012British Medical Journal13.7Yes




นิวอิงแลนด์ยังคงแชมป์ ที่ 47.1 นอกนั้นก็ตามลำดับ ถ้าใครอยากหาpaperก็ลองๆดูเป็นแนวทาง
นะว่าอันไหนน่าสนใจบ้าง The Journal of the American Medical Association ก็คือ JAMA นะ

อันนี้ของ GI จ้า จะเห็นว่าของ subspecialty จะมีคะแนน น้อยมาก
ขนาดสูงสุดของ GI ยัง 12.9 น้อยกว่า BMJ ที่ได้ 13.7 อีก

2.Gastroenterology Journals

Latest issueJournal click title to jump to journal homepageImpact
factor
Most read
articles
October 2012Gastroenterology12.9
November 2012Gut9.4Yes
October 2012The American Journal of Gastroenterology6.0
October 2012Clinical Gastroenterology and Hepatology5.6
October 2012Inflammatory Bowel Diseases4.6
1 November 2012Alimentary Pharmacology & Therapeutics4.4
May 2012Current Opinion in Gastroenterology4.3
May 2012Neurogastroenterology and Motility3.6
May 2012American Journal of Physiology - Gastrointestinal and Liver Physiology3.3Yes
September 2012Journal of Gastroenterology2.9
October 2012Helicobacter2.9
May 2012Pancreas2.7
June 2012Gastroenterology Clinics of North America2.6
September 2012Diseases of the Colon & Rectum2.5
June 2012Colorectal Disease2.4
September 2012Journal of Gastroenterology and Hepatology2.3
May/June 2012Journal of Clinical Gastroenterology2.2
February 2012Pancreatology2.2
June 2012International Journal of Colorectal Disease2.1
October 2012Scandinavian Journal of Gastroenterology2.1

 

อันนี้ของโรคตับ

3.Hepatology Journals

Latest issueJournal click title to jump to journal homepageImpact
factor
Most read
articles
September 2012Hepatology10.8
September 2012Journal of Hepatology7.8
November 2011Seminars in Liver Disease5.2
September 2012Liver Transplantation3.7
July 2012Journal of Viral Hepatitis3.3
July 2012Liver International3.0


อันนี้เกี่ยวกับส่องกล้อง

4.Endoscopy Journals

Latest issueJournal click title to jump to journal homepageImpact
factor
Most read
articles
September 2012Gastrointestinal Endoscopy6.7
September 2012Endoscopy5.5
August 2012Surgical Endoscopy3.3
May 2012Digestive Endoscopy0.3



ที่เกี่ยวกับ GI อีกก็คือ Nutrition

5.Nutrition Journals

Latest issueJournal click title to jump to journal homepageImpact
factor
Most read
articles
1 May 2012The American Journal of Clinical Nutrition6.3
May 2012Current Opinion in Clinical Nutrition & Metabolic Care4.3
May 2012Journal of Nutrition4.1Yes
May 2012Nutrition Reviews3.4


และ oncology จะเห็นได้ว่า สูงสุดของ onco ก็สูงมากนั่นคือ 17.8

6.Oncology Journals

Latest issueJournal click title to jump to journal homepageImpact
factor
Most read
articles
1 August 2012The Journal of Clinical Oncology17.8
11 May 2012Cancer Research7.5
1 May 2012The British Journal of Cancer4.3









ส่วนของหน่วยอื่นๆก็ลองไปหาข้อมูลกันดูจ้า

สรุป ถ้าเน้นๆของ Gen Med ก็ 8 อันนี้นะ ตามลำดับ
1.The New England Journal of Medicine                   47.1
2.Nature                                                                         34.5
3.The Lancet                                                                 30.8
4.Science                                                                      29.7
5.The Journal of the American Medical Association28.9
6.Nature Medicine                                                        27.1
7.Annals of Internal Medicine                                      16.2
8.British Medical Journal                                             13.7